วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กางเกงยีนส์ Lee


 Lee




ความเป็นมาของยีนส์                             
                 
       
มร.เฮนรี่ เดวิด ลี 


    1889 : มร.เฮนรี่ เดวิด ลี ก่อตั้ง บริษัท H.D. Lee Mercantile Company ในมลรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเริ่มธุรกิจผลิตและขายสินค้าคุณภาพ เขาเล็งเห็นความสำคัญของการผลิตเสื้อทำงานที่มีคุณภาพ เขาเบื่อหน่ายต่อการส่งของที่ไม่ตรงเวลาของผู้ผลิตทางตะวันออก ลี จึงเริ่มธุรกิจนี้ โดยการทำให้ดีขึ้นและในที่สุดได้กลายเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าที่ประสบความ สำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 20


ชุดแรก
    1911 : ลี เริ่มผลิต กางเกงยีนส์ที่มีคุณภาพในปี 1911ตัวแรกเรียกกันว่า ชุดหมีผ้ากันเปื้อน (Bib Overall) โดยดั้งเดิมผลิตด้วยผ้ายีนส์ 8 ออนซ์ และมีกระเป๋าหน้าอกสารพัดประโยชน์ รวมทั้งกระดุมลายนอกจากนั้น ลี ยังผลิต แจ็คแก็ต และ กางเกงยีนส์ ด้วยเช่นกัน
    1913 : การประดิษฐ์ กางเกงชุดหมี แบบชิ้นเดียวเป็นสัญลักษณ์ของ ยูเนี่ยน ออล โดยได้แรงบัน ดาล ใจจาก คนขับรถขณะซ่อมรถ บริษัท เอช.ดี. ลี (H.D. Lee) ได้พัฒนาชุดหมี ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สวมใส่เปื้อนทั้งด้านบนและด้านล่างของเอว
    1922 : บริษัท เอช.ดี. ลี สร้างสรรค์ แคมเปญโฆษณา บัดดี้ ลี โดยให้บัดดี้ ลี คนแรกแต่งชุดหมี และได้มีการวางโชว์ตามหน้ากระจกร้านของห้างสรรพสินค้า เดย์ตัน บนถนน นิโคเลต อเวอนู เมือง มินิอาโปลิส รัฐ มิเนโซต้า หลังจากนั้นมา บัดดี้ ลี ได้กลายเป็นของมีค่าของนักสะสม
    1924 : การนำกางเกงคาวบอย ลี เข้าสู่ตลาด ยีนส์ 101 พร้อม เป้า รูปตัวยู และ แผ่นผ้าทับบนกระดุม ซึ่งได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของ คาวบอย และ โรดิโอไรเดอร์แนวคิดที่เน้นไปที่คาวบอย ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า วิเศษมากเพราะเป็นตลาดที่กลายเป็นตัวโปรโมทเสื้อผ้ายีนส์ไปทั่วโลก
    1926 : เทคโนโลยี ซิป ได้มีส่วนเสริมกับกางเกงคาวบอย กางเกงยีนส์ที่มีซิปรุ่นแรกคือ 101Z ได้ผลิตออกสู่ตลาดโดยมีการตัดเย็บขนาดให้เหมาะสมกับการลุกนั่ง รวมทั้งขนาดของตะเข็บด้วย รวมถึงมีการทำเป้าเป็นรูปตัวยู เพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่
    1936 : Lee ได้สร้างสรรค์ การประทับตรายี่ห้อแบรนด์บนแผ่นหนังด้านหลังกางเกง โลโก้ ได้ถูกประทับบนแผ่นหนังแท้ ซึ่งเป็นลุคที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคาวบอยอย่างแท้จริง
    1944 : ได้มีการแนะนำ Lazy S (ในการเดินเส้นด้ายบนกระเป๋าหลัง) ออกสู่ตลาด การเดินเส้นบนกระเป๋าทั้ง 2 ข้าง เวลามองพร้อมๆกัน จะดูเหมือนรูปร่างของการ์ตูน “Long Horn” นอกจากนั้นปีนี้เป็นปีที่ เสื้อผ้าแนวคาวบอยของ ลี ได้ถูกรวมกันภายใต้ เลเบิล Lee Riders อีกด้วย
    1949 : มีการแนะนำ Lady Lee Riders ออกสู่ตลาด และขึ้นชื่อว่าเป็นกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่สุด


    1954 : เจมส์ ดีน แสดงนำใน ‘Giant’ และมารอน แบรนโด แสดงนำใน ‘The Wild One’ โดยทั้ง 2 คนสวมใส่กางเกงยีนส์ Lee ช่วงนี้เป็นการถือกำเนิดของประเพณีนิยมในหมู่นักปั่นจักรยาน และเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการสวมใส่กางเกงยีนส์เพื่อทำงาน สู่วัฒนธรรมป็อป นอกเหนือจากการเป็นเจ้าตลาดเสื้อผ้าทำงานและเป็นเจ้าตลาดฝั่งตะวันตก ลี ได้ข้ามไปยังส่วนที่เป็นตลาดลำลองด้วย “Leesures” เสื้อผ้าสวมใส่สบายที่เหมาะกับทั้งเพื่อการทำงานและพักผ่อน
    1964 : กางเกงยืด และกางเกงแบบผ้าไม่ยับ ได้ถูกนำออกสู่ตลาดโดยเป็นกางเกงรุ่นแรกที่ไม่ต้องรีด
    1969 : Lee ได้รวมกับบริษัท VF Company ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ Lee สามารถยกระดับการผลิตขึ้นและสามารถขยายการผลิตไปยังตลาดต่างประเทศ
    1975 : Lee ย้ายฐานไปอยู่ที่ ฮ่องกง และส่งออกไปยัง 82ประเทศทั่วโลก
    1982 : Lee เปลี่ยนจากธุรกิจเสื้อผ้าทำงาน เข้าสู่แวดวงแฟชั่นอย่างสมบูรณ์ เช่น การนำหินมาตกแต่งบนเนื้อผ้าเอาใจวัฒนธรรมวัยรุ่น
    1995 : Lee ย้ายฐานสู่ประเทศจีน และเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ ไต้หวัน ประเทศไทย ฯลฯ โดยได้กลายเป็น ยีนส์แบรนด์เนมชั้นนำแบรนด์หนึ่งในภูมิภาค 2007 : Lee แนะนำแคมเปญ Lee Make History เพื่อเป็นเวทีให้คนเราได้แสดงออกถึงความหลงใหลของตนเองด้วยการนำภาพถ่ายและ คำบรรยายมาแบ่งปันในรูปแบบออนไลน์ โดยแคมเปญนี้ได้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง Lee กับ ผู้บริโภค ด้วยการร่วมแบ่งปันคุณค่าของ “True Passion” และเฉลิมฉลองร่วมกัน โดยแคมเปญนี้ได้ขยายไปยังเอเชีย แปซิฟิคในปี 2008








สาเหตุที่ Lee ได้รับความนิยม                   

        Lee ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1889 ปัจจุบันประสบความสำเร็จไม่แพ้ใครเลย แถมยี่ห้อนี้ยังประสบความสำเร็จกับการคิดแคมเปญใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ ตั้งแต่ลุคคาวบอยหนุ่ม จนถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆในปัจจุบัน ด้วยเพทเทิร์นการตัดเย็บด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนายีนส์ให้ล้ำยิ่งกว่า จึงทำให้เราเห็น Leeในกลุ่มผู้หญิงทุกวัย












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น