วันศุกร์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กางเกงยีนส์ cc:oo

CC:OO  [CC DOUBLE O]


        เน้นความเป็นเสื้อผ้าลำลองสไตล์เมริกัน จึงทำให้เราพบเห็นยีนส์เป็นไอเทมประจำร้านอยู่บ่อย ๆ ด้วยความเรียบง่ายของแบรนด์จึงทำให้หยิบมาใส่กับเสื้อผ้าได้ง่าย จะหวานหรือจะเปรี้ยวก็ยีนส์จาก CC:OO ตัวเดียวนี่แหละ สวยครบทุกแนว


     ความเป็นมา CC:OO                                

          ยัสปาลกรุ๊ป ได้เปิดตัวเสื้อผ้าแบรนด์ใหม่คือ ซีซี ดับเบิลโอ (CC:OO) เมื่อปี 2547 โดยสไตล์เสื้อผ้าของ ซีซีดับเบิลโอ ออกมาเป็นแนวอเมริกันวินเทจแวร์ ซึ่งจะดูลำลองกว่า รวมถึงมีราคาต่ำกว่า ยัสปาล และซีพีเอส  แช็ปส์ 20 % รวมถึงยังมีการนำเสนอสินค้าตามสไตล์อเมริกัน ต่างไปจากการนำเสนอสินค้าสไตล์ยุโรปของ ยัสปาล และซีพีเอส  แช็ปส์








ที่มา :      http://women.kapook.com/view65371.html


กางเกงยีนส์ The dude

The dude


         แบรนด์ไทยราคาย่อมเยาว์ที่ครองใจสาววัยใสมานานหลายปี ด้วยสารพัดยีนส์สวย ๆ ตามสมัยนิยมที่จัดมาเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ







ที่มา :      http://women.kapook.com/view65371.html





กางเกงยีนส์ Gasoline

แก๊สโซลีน Gasoline



ประวัติ กางเกงยีนส์ Gasoline                        

ธนรัฐ ชื่นชอบกางเกงยีนส์มาตั้งแต่วัยเด็ก ถูกๆ แพงๆ ก็เคยมีไว้ในครอบครองมาหมดแทบทุกแบรนด์  พอชอบมากๆ ก็ทำให้เราอยากมียีนส์เป็นของตัวเอง ออกแบบเอง เลือกผ้าเอง อะไหล่ซิป กระดุม เป็นสไตล์ของเราเอง เราใช้ทองเหลือง บางแบบก็ลงทุนซื้อจักรแบบโบราณ เพื่อให้ได้ฝีเข็มที่แปลก จากความรักมาเป็นเรื่องลงทุน ทำให้มันสะใจ อยากใช้แบบนี้ ก็ทำแบบนี้ด้วยตัวเองดีกว่า เงินอาจจะสำคัญ แต่ไม่สำคัญที่สุดในการออกแบบ เป็นกางเกงยีนส์ที่ตัดเย็บด้วยวิชาtailor-made คือการนำเอาการตัดเย็บด้วยความสะเอียดอ่อนเพื่อเหมาะกับสรีระที่ใช้ในการตัดสูทมาตัดกางเกงยีนส์


          ชื่อแบรนด์มีแรงบันดาลใจชื่อของร้านมาจากเราบ้ารถ ชอบรถเก่าๆ รถถ้าไม่มีน้ำมันก็วิ่งไม่ได้ พลังงานเป็นสิ่งสำคัญ ชีวิตคนก็เหมือกัน ถ้ามนุษย์เป็นรถยนต์ พลังงานก็คือ น้ำมัน ที่มาของพลังงานก็ต้องเป็นปั๊มน้ำมัน ก็เป็นที่มาของร้านปั๊มน้ำมัน “แก๊สโซลีน” การที่เรามียีนส์ดีๆ เนื้อผ้าดีๆ ออกแบบดีๆ ผมว่า มันก็เหมือนกับเติมพลังให้ชีวิต เช้าตื่นขึ้นมาคุณอาจจะเซ็งๆ ไม่อยากไปไหน แต่ถ้ามียีนส์ดีๆ สักตัว อาจเป็นแรงกระตุ้นให้อยากใส่ยีนส์ที่เราชอบออกไปข้างนอกก็ได้”ธนรัฐ เมธีดล เจ้าของร้าน ปั๊มน้ำมัน “แก๊สโซลีน” ยีนส์ไทยขวัญใจวัยรุ่นพ.ศ.นี้ เล่าถึงความฝัน ความชอบของตัวเอง ก่อนกลายมาเป็นเจ้าของแบรนด์ยีนส์สัญชาติไทย ที่โด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ


เหตุผลที่ Gasoline ได้รับความนิยม                     


          1.ใส่แล้วจะไม่เกิดอาการเป้ายิ้ม เข้าวิน หรือโป้ เพราะสามารถรองรับกับสรีระของผู้ส่วมใส่
           2. กางเกงยีนส์ส่วนใหญ่มี 5 ไซส์ คือ S M L XL XXL แต่กางเกงยีนส์ปั๊มน้ำมันแก๊สโซลีนมีทั้งหมด  14 ไซส์ ด้วยประสบการณ์กว่า10 จึงทำให้มีการวิเคราะห์เรื่องไซส์ให้สามารถตอบโจทย์เรื่องการหาไซส์ 
          3.สามารถสั่งตัดกางเกงยีนส์ กับทางร้านได้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 อาทิตย์ และยัง สามารถออกแบบเองเลือกสีเลือกผ้าเองได้












ที่มา :      http://www.brandage.com/Modules/DesktopModules/Article/ArticleDetail.aspx                    http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=7023.0

กางเกงยีนส์ Mc Lady

Mc Lady



ประวัติ Mc Jeans                        



สุณี เสรีภาณุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเค การ์เมนท์ (อิมปอร์ต-เอ็กซ์ปอร์ต) ผู้สานต่อแม็คยีนส์ในยุคแรกๆ กล่าวว่า แม็คยีนส์แตกไลน์มาจากธุรกิจซักอบรีดเสื้อผ้า "ซินไฉฮั้ว" และเริ่มก่อตั้งบริษัทผลิตกางเกงยีนส์แม็คแห่งแรกเมื่อปี 2533 รับเป็นทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเสื้อผ้ายีนส์ พร้อมเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ "แม็คยีนส์" ในปี 2546 ได้ก่อตั้งโรงงานที่ 2 ในนามบริษัท พีเค การ์เมนท์ 2 เพื่อผลิตเสื้อเชิ้ต เสื้อยืด และแจ็กเกต ปี 2548 ได้ลงทุนระบบการฟอกยีนส์กว่า 80 ล้านบาท นำเข้าเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมเครื่องเลเซอร์ยิงลายยีนส์ที่ถือว่าเป็นเจ้าเดียวในประเทศไทย ปัจจุบันแบรนด์ไทยแบรนด์นี้แตกออกอีก 4 แบรนด์ ได้แก่ Mc Jeans, Bison-Casual wear, Mc Lady-Ladies wear และ Kangaroo-Sport Casual wear นำไปจำหน่ายทางแถบเพื่อนบ้าน อาทิ สิงคโปร์ พม่า ลาว เวียดนาม เป็นต้น นำรายได้เข้าสู่ประเทศปีละนับพันล้านบาท

        แม็คยีนส์เป็นยีนส์สัญชาติไทยแท้ๆ ที่เติบโตคู่กับสังคมไทยภายใต้กระแสนิยมยีนส์จากตะวันตกที่เข้ามาเผยแพร่ในเมืองไทย ด้วยลักษณะเฉพาะ เนื้อผ้าคุณภาพ รูปทรงเหมาะสมกับชาวเอเชีย ผนวกกับทีมขายที่มีความแข็งแกร่ง ส่งผลให้แม็คเป็นผู้นำด้านการตลาดติด 1 ใน 3 อย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 35 ปี จากกลยุทธ์ด้านการตลาดป่าล้อมเมือง แม็คจึงค่อนข้างจะแข็งแกร่งในตลาดภูธร นอกจากการรุกตลาดไปข้างหน้าเพื่อสร้างยอดขายแล้ว แม็คยังให้ความสำคัญกับการผลิตโดยได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว

         
         แบรนด์ "แม็ค" มาจากคำขึ้นต้นชื่อของผู้ชายชาวสกอตติช เป็นคำที่จดจำง่าย แต่ในประเทศเพื่อนบ้านจะเรียกแบรนด์นี้ว่า เอ็มซี ด้วยความที่เป็น "Mc" เหมือนจะเป็นแบรนด์ต่างชาติ แต่เป็นแบรนด์กางเกงยีน เสื้อผ้า รวมไปถึงกระเป๋า เข็มขัด ที่ดูมีระดับและมีความเป็นต้นฉบับสูงอยู่มานานถึง 35 ปี ถ้าต้องถามถึงแบบกางเกงยีนหรือแบรนด์ที่เกี่ยวกันยีน "Mc"ยังถูกเลือกและพูดถึงเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของแบรนด์กางเกงยีน Shopของ MC เองเมื่อเห็นสัญญาลักษ์ก็รู้ได้เลยว่าเป็นกางเกงยีนของ แม็คยีน"Mc" และลายปักสัญลักษณ์ที่กระเป๋าหลัง กระดุม ป้ายที่แถบเอว หรือจะเป็นที่ซิบก็แสดงความเป็น"Mc"อย่างชัดเจนได้เลยทีเดียวแบรนด์ "แม็ค" มาจากคำขึ้นต้นชื่อของผู้ชายชาวสกอตติช เป็นคำที่จดจำง่าย แต่ในประเทศเพื่อนบ้านจะเรียกแบรนด์นี้ว่า เอ็มซี ด้วยความที่เป็น "Mc" เหมือนจะเป็นแบรนด์ต่างชาติ แต่เป็นแบรนด์กางเกงยีน เสื้อผ้า รวมไปถึงกระเป๋า เข็มขัด ที่ดูมีระดับและมีความเป็นต้นฉบับสูงอยู่มานานถึง 35 ปี ถ้าต้องถามถึงแบบกางเกงยีนหรือแบรนด์ที่เกี่ยวกันยีน "Mc"ยังถูกเลือกและพูดถึงเป็นอันดับ 1 ใน 3 ของแบรนด์กางเกงยีน Shopของ MC เองเมื่อเห็นสัญญาลักษ์ก็รู้ได้เลยว่าเป็นกางเกงยีนของ แม็คยีน"Mc" และลายปักสัญลักษณ์ที่กระเป๋าหลัง กระดุม ป้ายที่แถบเอว หรือจะเป็นที่ซิบก็แสดงความเป็น"Mc"อย่างชัดเจนได้เลยทีเดียว


จุดเด่นของยีนส์   Mc Lady                


         ยีนส์ชื่อดังที่ขายดิบขายดี เพราะออกรุ่น Mc Lady มาเอาใจสุภาพสตรีที่รักยีนส์และแฟชั่นโดยเฉพาะ ยีนส์จากแม็คมีดีไซน์เก๋และถูกออกแบบการเย็บแบบพิเศษบวกกับสีสันมันส์ เรียบ เท่ เปรี้ยว สนุก ๆ หลากสไตล์ ใครชอบแบบไหนก็มีให้เลือกอย่างจุใจ



 





ที่มา :     http://mc-jean.blogspot.com/

กางเกงยีนส์ CPS

CPS CHAPS

จุดกำเนิดCPS CHAPS                                   

        CPS CHAPS (ซีพีเอส แชปส์) เป็นแบรนด์แฟชั่นที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1980 เริ่มจากการจำหน่ายเสื้อเชิ้ตผู้ชาย โดยเน้นรูปลักษณ์ คุณภาพของสินค้าและความทันสมัยของตัวสินค้า จากผลตอบรับที่ดีทำให้ในปี 1994 ทางแบรนด์ได้เพิ่มคอลเลคชั่นของผู้หญิงขึ้นมา เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดแฟชั่นในปัจจุบัน แบรนด์ CPS CHAPS มีชื่อเสียงอย่างมากในสินค้าประเภทสินค้าแฟชั่น และ Jeans Wear และมีความโดดเด่นทั้งในแฟชั่นทั้งหญิงและชาย ซึ่งปัจจุบันมีทีมดีไซเนอร์กว่า 10 คน ออกคอลเลคชั่นใหม่ทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์ที่นิยมอยู่ในขณะนั้น ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี จึงมั่นใจได้ว่าแบรนด์ CPS CHAPS เป็นผู้นำสินค้าแฟชั่นอย่างแท้จริง





จุดเด่นของCPS CHAPS                                

          จุดเด่นของกางเกงยีนส์ CPS CHAPS คือการนำเข้าผ้าจากยุโรปและญี่ปุ่นมาโดยตลอด ซึ่งเป็นโรงงานที่ผลิตผ้าเดนิมสำหรับแบรนด์ระดับโลก นอกจากนั้น CPS CHAPS ยังให้ความสำคัญกับการทำ R&D (Research and Development) ในเรื่องของเทคนิคการฟอก,ย้อม ใหม่ๆ รวมถึง fitting ของกางเกง ดังนั้นกางเกงยีนส์ทุกตัวที่ออกมาจึงมีลักษณะเฉพาะตัว อีกทั้งทีมดีไซเนอร์ ก็เป็นทีมที่มีความชำนาญในเรื่องยีนส์ ทำให้ CPS CHAPS สามารถยืนอยู่ในตลาดและเป็นที่ยอมรับจนถึงปัจจุบันนี้











กางเกงยีนส์ Wrangler

Wrangler




ประวัติ ยีนส์ wrangler                                       
  


          เป็นยีนส์ของบริษัทที่ชื่อว่า Bluebell ในเมือง Greensboro ในรัฐ North Carolina เมือง Greensboro เป็นเมืองธุรกิจ ใหญ่เป็นอันดับสองของรัฐ (รองจากเมือง Charlotte) เมืองนี้ เป็นเมืองแฝดสาม (เรียกว่า Triad Area) คู่กับเมือง Highpoint และเมือง Winston-Salem (ที่เป็นที่ตั้งบริษัท RJ Reynold ที่ทำบุหรี่นั่นแหละ) ถ้านับสามเมืองรวมกันแล้วก็ต้องนับว่าเป็นเมืองใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มทีเดียว  เดิมทีเดียวบริษัทนี้ไม่ได้ชื่อว่า Bluebell หรอก มันก่อตั้งในช่วงปี 1900 (บวกลบไม่เกิน 5 ปี) โดย C.C. Hudson ตะแกย้ายมาจาก Tennessee มาตั้งรกรากที่ Greensboro และตั้งบริษัทชื่อ Hudson Overall Company  Overall เนี่ยคือชุดเอี๊ยมที่ฝรั่งชอบใส่กันน่ะ เป็นกางเกงเอี๊ยมที่เดี๋ยวนี้ก็ยังใส่กันอยู่ สมัยก่อนคนนิยมใส่ Overall ทำฟาร์มกันนะ เดี๋ยวนี้ก็ยังนิยมใส่กันอยู่  
          บริษัทเปลี่ยนชื่อจาก Hudson Overall Co, เป็น Bluebell Overall Co. ในปี 1919 พร้อมกับการสร้างโรงงานใหม่ ใหญ่โต แล้วในปี 1926 บริษัทชื่อ Big Ben ก็เข้าซื้อกิจการของ Bluebell Overall แล้วควบกิจการกันและเปลี่ยนชื่อ เป็น Bluebell เฉยๆ Hudson ก็เริ่มวางมือจากบริษัทหลังจากนั้น เพราะสุขภาพเริ่มไม่ค่อยจะดี ถึงตอนนี้ ยีน Wrangler ยังไม่เกิด  ยีน Wrangler มาเกิดก็อีตอนที่ Bluebell เข้าไปซื้อกิจการของ Casey Jones Workclothes Co. ในปี 1943 Casey Jones เป็นเจ้าของยี่ห้อ Wrangler แต่จดชื่อเอาไว้เฉยๆ แทบจะไม่ได้เคยทำอะไรกับชื่อนี้เลย Bluebell ก็เลยเอามาใช้ เพราะชื่อมันเข้า เค้ากับ Rodeo ซึ่งเป็น Target group ของบริษัทมาก  

          ชื่อของกางเกงยีนส์ Wrangler มาดังเอาระเบิดงในช่วงปลายทศวรรษ 1940 (ประมาณ 1946-1949 เนี่ยแหละ) เมื่อกางเกงรุ่น 13MWZ ที่ออกแบบโดย Rodeo Ben วางตลาด กางเกงรุ่นนี้เป็นยีนรุ่นแรกที่ใช้ซิป ไม่ใช้กระดุม นัยว่าออกแบบสำหรับพวก Rodeo โดยเฉพาะ คือ เวลาขี่ม้าพยศเนี่ย พวก Rodeo จะต้องจับเขาบนอานม้า (เรียกว่า steer horn) ซึ่งอยู่ตำแหน่งใกล้เป้า มาก บางทีไอ้เจ้า steer horm มันก็ไปเกี่ยวกับช่องระหว่างกระดุมตรงเป้า ทำให้เสียการทรงตัวไป กางเกงรุ่นนี้ใช้ซิปเลยไม่มี ปัญหานี้ และเป็นที่นิยมของพวก Rodeo ดังๆเป็นอย่างมาก ยีนส์ Wrangler ยังได้รับการ endorsed โดย Professional Rodeo Cowboys Association ด้วย ทุกวันนี้ไม่มีบริษัท Bluebell แล้ว เพราะถูกซื้อกิจการโดยบริษัท VF Corporation ไปแล้ว แต่ Wranger jeans ยังคงอยู่ และโรงงานก็ยังคงอยู่ที่เมือง Greensboro เหมือนเดิม


ความนิยม ยีนส์ wrangler                                 

          Wrangler ถือเป็นยีนส์เก๋าระดับตำนาน มีอายุกว่า 100 ปี ที่ไม่ได้ฮอตฮิตแต่ในกลุ่มคาวบอยและหนุ่มเท่ ๆ เท่านั้น ยีนส์Wrangler ยังระบาดมาในหมู่สาว ๆ ซึ่งใช้รูปลักษณ์ใหม่ปรากฎบนเสื้อยืด และเสื้อสเวตเตอร์ ทำให้ Wrangler คงความเป็นอมตะไม่มีวันตายไปจากโลกของยีนส์ได้ 








ที่มา :      http://women.kapook.com/view65371.html

วันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กางเกงยีนส์ Lee


 Lee




ความเป็นมาของยีนส์                             
                 
       
มร.เฮนรี่ เดวิด ลี 


    1889 : มร.เฮนรี่ เดวิด ลี ก่อตั้ง บริษัท H.D. Lee Mercantile Company ในมลรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และเริ่มธุรกิจผลิตและขายสินค้าคุณภาพ เขาเล็งเห็นความสำคัญของการผลิตเสื้อทำงานที่มีคุณภาพ เขาเบื่อหน่ายต่อการส่งของที่ไม่ตรงเวลาของผู้ผลิตทางตะวันออก ลี จึงเริ่มธุรกิจนี้ โดยการทำให้ดีขึ้นและในที่สุดได้กลายเป็นบริษัทผลิตเสื้อผ้าที่ประสบความ สำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งในศตวรรษที่ 20


ชุดแรก
    1911 : ลี เริ่มผลิต กางเกงยีนส์ที่มีคุณภาพในปี 1911ตัวแรกเรียกกันว่า ชุดหมีผ้ากันเปื้อน (Bib Overall) โดยดั้งเดิมผลิตด้วยผ้ายีนส์ 8 ออนซ์ และมีกระเป๋าหน้าอกสารพัดประโยชน์ รวมทั้งกระดุมลายนอกจากนั้น ลี ยังผลิต แจ็คแก็ต และ กางเกงยีนส์ ด้วยเช่นกัน
    1913 : การประดิษฐ์ กางเกงชุดหมี แบบชิ้นเดียวเป็นสัญลักษณ์ของ ยูเนี่ยน ออล โดยได้แรงบัน ดาล ใจจาก คนขับรถขณะซ่อมรถ บริษัท เอช.ดี. ลี (H.D. Lee) ได้พัฒนาชุดหมี ที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สวมใส่เปื้อนทั้งด้านบนและด้านล่างของเอว
    1922 : บริษัท เอช.ดี. ลี สร้างสรรค์ แคมเปญโฆษณา บัดดี้ ลี โดยให้บัดดี้ ลี คนแรกแต่งชุดหมี และได้มีการวางโชว์ตามหน้ากระจกร้านของห้างสรรพสินค้า เดย์ตัน บนถนน นิโคเลต อเวอนู เมือง มินิอาโปลิส รัฐ มิเนโซต้า หลังจากนั้นมา บัดดี้ ลี ได้กลายเป็นของมีค่าของนักสะสม
    1924 : การนำกางเกงคาวบอย ลี เข้าสู่ตลาด ยีนส์ 101 พร้อม เป้า รูปตัวยู และ แผ่นผ้าทับบนกระดุม ซึ่งได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของ คาวบอย และ โรดิโอไรเดอร์แนวคิดที่เน้นไปที่คาวบอย ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า วิเศษมากเพราะเป็นตลาดที่กลายเป็นตัวโปรโมทเสื้อผ้ายีนส์ไปทั่วโลก
    1926 : เทคโนโลยี ซิป ได้มีส่วนเสริมกับกางเกงคาวบอย กางเกงยีนส์ที่มีซิปรุ่นแรกคือ 101Z ได้ผลิตออกสู่ตลาดโดยมีการตัดเย็บขนาดให้เหมาะสมกับการลุกนั่ง รวมทั้งขนาดของตะเข็บด้วย รวมถึงมีการทำเป้าเป็นรูปตัวยู เพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่
    1936 : Lee ได้สร้างสรรค์ การประทับตรายี่ห้อแบรนด์บนแผ่นหนังด้านหลังกางเกง โลโก้ ได้ถูกประทับบนแผ่นหนังแท้ ซึ่งเป็นลุคที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคาวบอยอย่างแท้จริง
    1944 : ได้มีการแนะนำ Lazy S (ในการเดินเส้นด้ายบนกระเป๋าหลัง) ออกสู่ตลาด การเดินเส้นบนกระเป๋าทั้ง 2 ข้าง เวลามองพร้อมๆกัน จะดูเหมือนรูปร่างของการ์ตูน “Long Horn” นอกจากนั้นปีนี้เป็นปีที่ เสื้อผ้าแนวคาวบอยของ ลี ได้ถูกรวมกันภายใต้ เลเบิล Lee Riders อีกด้วย
    1949 : มีการแนะนำ Lady Lee Riders ออกสู่ตลาด และขึ้นชื่อว่าเป็นกางเกงยีนส์ที่เหมาะสำหรับสุภาพสตรีที่สุด


    1954 : เจมส์ ดีน แสดงนำใน ‘Giant’ และมารอน แบรนโด แสดงนำใน ‘The Wild One’ โดยทั้ง 2 คนสวมใส่กางเกงยีนส์ Lee ช่วงนี้เป็นการถือกำเนิดของประเพณีนิยมในหมู่นักปั่นจักรยาน และเป็นการเปลี่ยนแปลงจากการสวมใส่กางเกงยีนส์เพื่อทำงาน สู่วัฒนธรรมป็อป นอกเหนือจากการเป็นเจ้าตลาดเสื้อผ้าทำงานและเป็นเจ้าตลาดฝั่งตะวันตก ลี ได้ข้ามไปยังส่วนที่เป็นตลาดลำลองด้วย “Leesures” เสื้อผ้าสวมใส่สบายที่เหมาะกับทั้งเพื่อการทำงานและพักผ่อน
    1964 : กางเกงยืด และกางเกงแบบผ้าไม่ยับ ได้ถูกนำออกสู่ตลาดโดยเป็นกางเกงรุ่นแรกที่ไม่ต้องรีด
    1969 : Lee ได้รวมกับบริษัท VF Company ซึ่งเป็นพันธมิตรผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง ส่งผลให้ Lee สามารถยกระดับการผลิตขึ้นและสามารถขยายการผลิตไปยังตลาดต่างประเทศ
    1975 : Lee ย้ายฐานไปอยู่ที่ ฮ่องกง และส่งออกไปยัง 82ประเทศทั่วโลก
    1982 : Lee เปลี่ยนจากธุรกิจเสื้อผ้าทำงาน เข้าสู่แวดวงแฟชั่นอย่างสมบูรณ์ เช่น การนำหินมาตกแต่งบนเนื้อผ้าเอาใจวัฒนธรรมวัยรุ่น
    1995 : Lee ย้ายฐานสู่ประเทศจีน และเติบโตอย่างต่อเนื่องในภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิค อาทิ ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงค์โปร์ ไต้หวัน ประเทศไทย ฯลฯ โดยได้กลายเป็น ยีนส์แบรนด์เนมชั้นนำแบรนด์หนึ่งในภูมิภาค 2007 : Lee แนะนำแคมเปญ Lee Make History เพื่อเป็นเวทีให้คนเราได้แสดงออกถึงความหลงใหลของตนเองด้วยการนำภาพถ่ายและ คำบรรยายมาแบ่งปันในรูปแบบออนไลน์ โดยแคมเปญนี้ได้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง Lee กับ ผู้บริโภค ด้วยการร่วมแบ่งปันคุณค่าของ “True Passion” และเฉลิมฉลองร่วมกัน โดยแคมเปญนี้ได้ขยายไปยังเอเชีย แปซิฟิคในปี 2008








สาเหตุที่ Lee ได้รับความนิยม                   

        Lee ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1889 ปัจจุบันประสบความสำเร็จไม่แพ้ใครเลย แถมยี่ห้อนี้ยังประสบความสำเร็จกับการคิดแคมเปญใหม่ๆออกมาอยู่เสมอ ตั้งแต่ลุคคาวบอยหนุ่ม จนถึงไลฟ์สไตล์ต่างๆในปัจจุบัน ด้วยเพทเทิร์นการตัดเย็บด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนายีนส์ให้ล้ำยิ่งกว่า จึงทำให้เราเห็น Leeในกลุ่มผู้หญิงทุกวัย